Slow Furniture ขั้นสุด! กับ ‘Full Grown’ ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ด้วยการปลูก และใช้เวลา 4-8 ปี กว่าจะได้สินค้าหนึ่งชิ้น

ในยุคที่เราสั่งเฟอร์นิเจอร์ทางออนไลน์ กดเพียงคลิกเดียว อีกไม่กี่วันก็มีเก้าอี้ โต๊ะ หรือชั้นวางของมาส่งถึงบ้าน หลายคนอาจลืมไปแล้วว่าเฟอร์นิเจอร์เหล่านั้นเริ่มต้นจากต้นไม้ที่ต้องใช้เวลาหลายสิบปีในการเติบโต ก่อนถูกโค่น ตัด แปรรูป แล้วประกอบกันใหม่จนกลายเป็นสินค้าในกล่องที่ถูกส่งมาวางไว้ที่หน้าบ้านของเรา

แต่สำหรับ ‘Full Grown’ แบรนด์เฟอร์นิเจอร์จากประเทศอังกฤษ แนวคิดนี้ถูกพลิกกลับหัว เพราะพวกเขาเลือกจะ ‘ปลูก’ เฟอร์นิเจอร์ให้เติบโตเป็นรูปร่างที่ต้องการตั้งแต่แรก ไม่ต้องตัด ไม่ต้องประกอบใหม่ ไม่ต้องเร่งเวลา เหลือเพียงการรอให้ธรรมชาติทำหน้าที่ของตัวเอง

เรื่องนี้อาจฟังดูเหมือนนิยายวิทยาศาสตร์หรือศิลปะสุดล้ำ แต่ Full Grown กำลังทำให้สิ่งนี้เป็นจริงบนพื้นที่เกษตรในเมืองดาร์บี ประเทศอังกฤษ

ความแปลกใหม่ของ Full Grown ไม่ได้อยู่แค่ตัวเฟอร์นิเจอร์ที่เกิดจากธรรมชาติ แต่มันยังตั้งคำถามใหญ่ให้กับอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์และไลฟ์สไตล์ของคนยุคนี้ ว่าเราจะอยู่กับสิ่งของที่ใช้เวลาสร้างอย่างช้า ๆ ได้จริงหรือไม่ ในโลกที่ทุกอย่างต้องเร็วและเปลี่ยนง่าย โดยบทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก ‘Full Grown’ พร้อมสำรวจเทรนด์ผลกระทบของ ‘Fast Furniture’ ในวันที่ข้าวของเครื่องใช้ถูกผลิตขึ้นอย่างรวดเร็วและง่ายดาย แต่อาจมาพร้อมกับผลกระทบที่เราหลงลืมที่จะคำนึงถึง

เทรนด์ Fast Furniture 

เราย่อมคุ้นหูกับคำว่า ‘Fast Fashion’ หรือการที่เสื้อผ้านานาแบบถูกผลิตขึ้นตามกระแสหรือฤดูกาล อีกทั้งยังพยายามจูงใจให้ผู้คนขยับตามแทรนด์เหล่านั้นอีกด้วย ในฟากของสินค้าอย่างเฟอร์นิเจอร์ก็ไม่ต่างออกไป เราจะเห็นได้ถึงสินค้าเฟอร์นิเจอร์ราคาย่อมเยา แถมซื้อง่าย และส่งไว เราอาจนิยามเทรนด์เหล่านี้ได้ผ่านคำว่า ‘Fast Furniture’ คือของแต่งบ้านราคาถูก ผลิตเร็ว ส่งไว เปลี่ยนบ่อย เหมาะกับคนที่อยากปรับเปลี่ยนพื้นที่อยู่เสมอ ให้ทันเทรนด์หรือไลฟ์สไตล์ที่หมุนเร็วเหมือนแฟชั่นเสื้อผ้า

แต่เบื้องหลัง Fast Furniture คือปัญหาขยะที่เพิ่มขึ้นมหาศาล รายงานขององค์การสหประชาชาติชี้ว่า อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์โดยเฉพาะในประเทศพัฒนาแล้ว เป็นหนึ่งในต้นตอสำคัญของปัญหาของเสีย เพราะเมื่อเฟอร์นิเจอร์ราคาถูกเสื่อมสภาพเร็ว ก็ถูกทิ้งง่ายโดยไม่คิดมาก แตกต่างจากเฟอร์นิเจอร์จากยุคก่อนที่มีความทนทานและอายุการใช้งานที่ยาวกว่ามาก

ไม่เพียงเท่านั้น กระบวนการผลิตยังอาศัยไม้จากการตัดต้นไม้ขนาดใหญ่ ใช้พลังงานและทรัพยากรจำนวนมาก สวนทางกับเป้าหมายความยั่งยืนที่ทั่วโลกพยายามผลักดัน

ในขณะที่เฟอร์นิเจอร์ Fast Furniture กำลังครองตลาด ด้วยจุดขายที่ผลิตเร็ว ราคาเข้าถึงง่าย เปลี่ยนบ่อยตามเทรนด์ของคนรุ่นใหม่ เรากลับพบว่ามีแบรนด์หนึ่งที่สวนทางกับภาพเหล่านั้นอย่างสุดขั้ว

แบรนด์ที่ว่านี้ไม่ได้แค่ผลิตช้า แต่เลือกจะ ‘ปลูก’ เฟอร์นิเจอร์ให้เติบโตจากต้นไม้ทั้งต้น กระบวนการที่ใช้เวลาหลายปี เพื่อให้ได้เก้าอี้หนึ่งตัว โต๊ะหนึ่งตัว โดยไม่มีการเร่งรีบหรือแปรรูปใด ๆ

แนวทางของแบรนด์นี้ อาจเรียกได้ว่าเป็น ‘Slow Furniture’ ท่ามกลางความนิยมของ ‘Fast Furniture’ เลยก็ว่าได้

‘Full Grown’ จากประเทศอังกฤษ คือแบรนด์นั้น และเรื่องราวของพวกเขาอาจทำให้เรามองอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ในมุมใหม่ ว่าของชิ้นหนึ่งจะมีความหมายแค่ไหน หากปล่อยให้เวลาทำหน้าที่ของมันอย่างเต็มที่

ผลิตเฟอร์นิเจอร์ด้วยการ ‘ปลูก’

Full Grown น่าจะเป็นตัวอย่างที่สะท้อนให้เราเห็นความเป็น Slow Furniture อย่างประจักษ์ชัด โดยเปลี่ยนแนวคิดจาก ‘ผลิต’ มาเป็น ‘ปลูก’ ให้เติบโตจากต้นไม้โดยตรง

กาวิน มันโร (Gavin Munro) และ อลิซ มันโร (Alice Munro) คู่สามีภรรยาผู้ก่อตั้ง Full Grown ได้แรงบันดาลใจตั้งแต่วัยเด็ก เมื่อ กาวิน เห็นต้นไม้โค้งงอผิดรูปจากธรรมชาติ และเริ่มสงสัยว่าทำไมเราไม่ทำให้ต้นไม้เติบโตไปเป็นเฟอร์นิเจอร์เลยตั้งแต่แรก โดยไม่ต้องไปผ่านกระบวนการแปรรูปในโรงงาน

หลังจากทดลองปลูกต้นไม้ในสวนหลังบ้าน พวกเขาค้นพบวิธีใช้แม่พิมพ์พลาสติกช่วยพยุงต้นไม้ให้เติบโตโค้งงอตามรูปทรงที่ต้องการ เช่น โครงเก้าอี้ โต๊ะ หรือโคมไฟ โดยไม่ทำร้ายต้นไม้ โดยต้นไม้ที่เลือกใช้มีทั้ง ต้นวิลโลว์ (Willow), ต้นโอ๊ก (Oak) และ ต้นเฮเซล (Hazel) ซึ่งเติบโตเร็วและยืดหยุ่น แต่กว่าจะได้เฟอร์นิเจอร์หนึ่งชิ้น ต้องใช้เวลาระหว่าง 4 ถึง 8 ปีเลยทีเดียว

ตลอดระยะเวลานั้น ต้นไม้จะค่อยๆ เติบโต ยึดตัวเข้ากับโครงแม่พิมพ์ เมื่อแข็งแรงดีแล้วจึงตัด ตากแห้ง และขัดเงาโดยไม่ต้องนำไปแปรรูปหรือประกอบใหม่ ผลลัพธ์คือเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่เหมือนใคร เติบโตจากต้นไม้หนึ่งต้น มีลวดลาย ร่องรอย และความโค้งมนที่ธรรมชาติสร้างขึ้นเฉพาะตัว

สำหรับ กาวิน มันโร การปลูกเฟอร์นิเจอร์ไม่ใช่แค่การผลิต แต่เป็นการร่วมมือกับธรรมชาติอย่างแท้จริง เพราะเร่งเกินไปต้นไม้จะตาย แต่ถ้าให้เวลา ทุกอย่างจะเติบโตสวยงามเอง เฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นจึงไม่ใช่งานของ กาวินและอลิซ มันโร แต่เป็นการที่พวกเขาสร้างมัน ‘จาก’ และ ‘ร่วมกับ’ ธรรมชาติ จนกลายเป็นเฟอร์นิเจอร์แบบ Full Grown

ธุรกิจแบบ Full Grown

จะกล่าวว่าเฟอร์นิเจอร์จาก Full Grown คือ Slow Furniture ที่ช้าที่สุดในโลกก็อาจไม่ผิดนัก แต่ที่สำคัญกว่านั้น ความช้าที่ว่าได้แฝงไปด้วยคุณค่าทั้งทางสิ่งแวดล้อมและธุรกิจอย่างมีนัยสำคัฐ

ในมุมสิ่งแวดล้อม Full Grown ลดการใช้ทรัพยากรจากระบบอุตสาหกรรมแบบเดิม ไม่ต้องโค่นไม้ใหญ่จำนวนมาก หรือตัดแปรรูปหลายขั้นตอน ต้นไม้หนึ่งต้นถูกปลูกและเติบโตเป็นเฟอร์นิเจอร์ทั้งชิ้น ช่วยลดการใช้พลังงานและคาร์บอนฟุตพริ้นท์ในทุกกระบวนการ นอกจากนั้น ต้นไม้ที่ปลูกในฟาร์มยังช่วยดูดซับคาร์บอน เพิ่มพื้นที่สีเขียว และส่งเสริมระบบนิเวศอย่างยั่งยืน โดยสวนของ Full Grown ในอังกฤษมีต้นไม้หลายพันต้นทยอยเติบโตพร้อมกัน แต่ละต้นมีบทบาททั้งในฐานะทรัพยากรและเป็นส่วนหนึ่งของระบบธรรมชาติ

คำถามที่หลายคนสงสัยคือ ธุรกิจแบบนี้จะอยู่รอดอย่างไร ในเมื่อใช้เวลานาน และผลิตออกมาในปริมาณน้อย?

คำตอบคือ Full Grown ใช้โมเดลธุรกิจที่เน้นคุณค่ามากกว่าปริมาณ ผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นเปรียบเสมือนกับของสะสมที่มีเรื่องราวเฉพาะตัว มีตลาดชัดเจนในกลุ่มคนที่ให้ความสำคัญกับเอกลักษณ์ ความยั่งยืน และศิลปะ

ตัวอย่างเช่น เก้าอี้จาก Full Grown มีราคาสูงถึง 10,000 ปอนด์ หรือประมาณ 400,000 บาท โคมไฟอยู่ที่ราว 900–2,300 ปอนด์ แม้ราคาสูง แต่มีลูกค้าพร้อมรอซื้อ เพราะพวกเขาไม่ได้จ่ายเพื่อเฟอร์นิเจอร์ธรรมดา แต่จ่ายเพื่อชิ้นงานที่เติบโตจากธรรมชาติจริง ใช้เวลาหลายปี มีร่องรอยและลวดลายเฉพาะตัว

ยิ่งไปกว่านั้น เฟอร์นิเจอร์บางชิ้นยังถูกจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ระดับโลก เช่น National Museum of Scotland หรือ San Francisco MOMA ยิ่งตอกย้ำสถานะของ Full Grown ในฐานะทั้งผู้ผลิตและศิลปินที่สร้างสรรค์งานศิลปะไปพร้อม ๆ กัน

ที่สำคัญ Full Grown ไม่มีคู่แข่งโดยตรง เพราะการปลูกเฟอร์นิเจอร์ทั้งต้นเป็นวิธีที่ใช้เวลานาน มีความซับซ้อนสูง และต้องอาศัยความเข้าใจธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง จึงไม่เกิดการแข่งขันด้านราคาเหมือนตลาดเฟอร์นิเจอร์ทั่วไป

แม้จะผลิตได้ไม่มาก แต่การทยอยปลูกและเก็บเกี่ยวเป็นรอบ ๆ ทำให้มีรายได้หมุนเวียนต่อเนื่อง ขณะเดียวกันต้นทุนโครงสร้างของ Full Grown ต่ำ เพราะไม่ต้องมีโรงงานขนาดใหญ่หรือเครื่องจักรหนัก เน้นลงทุนกับพื้นที่เกษตรและกระบวนการดูแลต้นไม้แทน

Full Grown อาจไม่ได้ผลิตของออกมาจำนวนมาก หรือครองส่วนแบ่งตลาดเฟอร์นิเจอร์ระดับโลก แต่สิ่งที่พวกเขาทำ คือการสร้างคำถามใหม่ให้กับโลกที่ทุกอย่างต้องหมุนเร็ว เปลี่ยนง่าย และทิ้งบ่อย

ท่ามกลางกระแส Fast Furniture ที่เน้นผลิตไว ขายไว และหมดอายุไว Full Grown กลายเป็นตัวอย่างของสินค้าที่เติบโตอย่างช้า ๆ ใช้เวลาเป็นปี หรือเกือบถึงสิบปี กว่าจะส่งมอบเฟอร์นิเจอร์หนึ่งชิ้นถึงมือผู้ซื้อ แต่แม้มันจะดูสวนทางกับโลกจริงที่ทุกอย่างต้องทันใจ แต่ในความสุดโต่งนั้น ก็สะท้อนให้เราเห็นถึงข้อดีของการรอคอย คุณค่าของสิ่งที่ไม่ได้มาไว และความเปราะบางของระบบที่เร่งผลิต เร่งเปลี่ยน จนลืมคิดถึงผลกระทบระยะยาว

อ้างอิง 

  • Full Grown. “About Us.” https://fullgrown.co.uk/about-us
  • Full Grown. “Full Grown’s History.” https://fullgrown.co.uk/full-growns-history
  • BBC News. “The man who grows fields full of tables and chairs.” https://www.bbc.com/news/uk-england-derbyshire-48750372
  • HuffPost. “UK Couple Growing Furniture on Farm.” https://www.huffpost.com/entry/growing-furniture_n_565b9d7de4b072e9d1c2be71
  • The Guardian. “A mystical idea that took root in the grounds of a childhood garden.” https://www.theguardian.com/artanddesign/2017/aug/13/furniture-grown-into-shape-uk-full-grown
  • Reuters. “From tree to chair, without the carpentry: UK couple grows furniture.” https://www.reuters.com/article/world/from-tree-to-chair-without-the-carpentry-uk-couple-grows-furniture-idUSKBN1W81GM
  • World Economic Forum. “This UK furniture maker doesn’t build chairs, it grows them.” https://www.weforum.org/stories/2019/10/growing-furniture-deforestation-farm-chairs

หน้าตาของคำว่า ‘ความยั่งยืน’ มักถูกใช้จนดูจำเจ แต่คำถามสำคัญคือเราจะเล่าเรื่องราวเหล่านั้นออกมาอย่างไร ที่จะทำให้วิถีการอยู่คู่กับโลกมีความหมายมากกว่าเดิม เพราะทุกคนล้วนมีความรักต่อโลกใบนี้ในแบบฉบับของตัวเอง นั่นคือความเชื่อของผมในการเล่าเรื่องผ่าน aRoundP